จบในตัวเดียว! รีวิว En105 Push&Pull ดีไซน์พรีเมียม ที่เป็นทั้งกลอนและกริ่งในตัว

จบในตัวเดียว! รีวิว En105 Push&Pull ดีไซน์พรีเมียม ที่เป็นทั้งกลอนและกริ่งในตัว

จบในตัวเดียว! รีวิว En105 Push&Pull ดีไซน์พรีเมียม ที่เป็นทั้งกลอนและกริ่งในตัว

ในยุคที่เทคโนโลยี “Smart Home” กำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “ประตูหน้า” ซึ่งเป็นปราการด่านแรกของบ้าน ก็ย่อมต้องการโซลูชันที่มากกว่าแค่การล็อกกุญแจแบบเดิมๆ เรามองหาความปลอดภัยที่รัดกุม, ความสะดวกสบายในการเข้า-ออก, และดีไซน์ที่ส่งเสริมความหรูหราของตัวบ้าน วันนี้ เราจะมารีวิวหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้อย่างลงตัว นั่นคือ En105 Push&Pull จาก Ensure – กลอนประตูดิจิทัลที่ไม่ได้เป็นแค่ “กลอน” แต่ยังเป็น “กริ่ง” ในตัว พร้อมดีไซน์พรีเมียมที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การเข้าบ้านของคุณไปตลอดกาล

ทำไม En105 ถึง “จบในตัวเดียว”?

คำโปรย “จบในตัวเดียว” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากความสามารถในการรวมสองฟังก์ชันหลักที่ทุกบ้านต้องมี นั่นคือ “กลอนประตู” และ “กริ่งประตู” (Doorbell) เข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน

ในอดีต เราต้องติดตั้งกลอนประตูตัวใหญ่ และต้องหาพื้นที่ผนังข้างๆ เพื่อเจาะติดตั้งกริ่งประตูแยกต่างหาก ทำให้หน้าประตูดูรกและมีหลายขั้นตอนในการติดตั้ง แต่ En105 ได้ผสานไอคอนรูปกริ่งไว้บนหน้าจอ LED ของตัวเครื่องอย่างสวยงาม เมื่อแขกมาเยือน เพียงแค่แตะที่สัญลักษณ์กริ่ง เสียงออดก็จะดังขึ้นภายในบ้านทันที นี่คือการปฏิวัติความเรียบง่ายที่มาพร้อมความหรูหราอย่างแท้จริง

สัมผัสแรกกับดีไซน์พรีเมียม (Premium Design)

สิ่งแรกที่ En105 สร้างความประทับใจคือ “ดีไซน์” ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ Aluminum Alloy ทั้งชิ้น ให้สัมผัสที่เย็น หรูหรา และแข็งแกร่งทนทาน ไม่ใช่วัสดุพลาสติกที่ให้ความรู้สึกบอบบาง การออกแบบเน้นความเรียบหรู มินิมอล แต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เพรียวยาว (กว้าง 6.5 ซม. * ยาว 42 ซม.) ทำให้ดูโดดเด่นและทันสมัยเมื่อติดตั้งบนบานประตู ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้, ประตูเหล็ก หรือประตูไม้สังเคราะห์ (ที่ความหนา 40-110 มม.) ก็สามารถติดตั้งได้อย่างลงตัว เสริมให้บ้านของคุณดูพรีเมียมขึ้นทันที

นวัตกรรม Push&Pull: ความสะดวกสบายที่ขาดไม่ได้
นวัตกรรม Push&Pull: ความสะดวกสบายที่ขาดไม่ได้

นวัตกรรม Push&Pull: ความสะดวกสบายที่ขาดไม่ได้

หนึ่งในฟีเจอร์ “เปลี่ยนชีวิต” ของ En105 คือระบบมือจับแบบ Push&Pull (ผลักและดึง) ลืมการบิดลูกบิดหรือการสับคันโยกลงแบบเดิมๆ ไปได้เลย

ในสถานการณ์เร่งด่วน หรือเมื่อคุณถือของพะรุงพะรังเต็มสองมือ การจะหาช่องว่างเพื่อบิดลูกบิดประตูเป็นเรื่องที่ทุลักทุเล แต่สำหรับ En105:

  • เมื่ออยู่ข้างนอก (ขาเข้า): หลังจากปลดล็อก (ด้วยลายนิ้วมือ, รหัส, หรือการ์ด) คุณเพียงแค่ “ดึง” (Pull) มือจับเข้าหาตัว ประตูก็จะเปิดออกอย่างง่ายดาย
  • เมื่ออยู่ข้างใน (ขาออก): เพียงแค่ “ผลัก” (Push) มือจับออกไป ประตูก็พร้อมเปิดให้คุณทันที ไม่ต้องบิดหรือหมุนใดๆ

นี่คือการออกแบบที่เข้าใจสรีระและการใช้งานจริง (Ergonomic Design) ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุด โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก

5 วิธีปลดล็อกอัจฉริยะ: เลือกที่ใช่ในแบบของคุณ

En105 มอบอิสระในการเข้าถึงบ้านถึง 5 รูปแบบ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว:

  1. สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scan): รวดเร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุด เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกรวมไว้ในมือจับอย่างแนบเนียน เพียงวางนิ้วในตำแหน่งที่ถูกต้อง ประตูก็ปลดล็อกทันที รองรับได้สูงสุดถึง 100 ลายนิ้วมือ
  2. กดรหัสผ่าน (Passcode): หน้าจอ LED แบบสัมผัสจะสว่างขึ้นเมื่อใช้งาน สามารถตั้งรหัสได้ 3-19 หลัก และยังมีฟังก์ชัน “One Time Password” (รหัสผ่านใช้แล้วทิ้ง) สำหรับให้แขก, แม่บ้าน, หรือช่าง เข้าบ้านได้เพียงครั้งเดียว เพิ่มความปลอดภัยเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน
  3. คีย์การ์ด (Keycard): สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการใช้รหัสหรือลายนิ้วมือ เพียงทาบการ์ดที่ตัวเครื่อง ก็เข้าบ้านได้ทันที รองรับการ์ดได้สูงสุดถึง 100 ใบ
  4. แอปพลิเคชัน (Application – Tuya WiFi): เชื่อมต่อ En105 เข้ากับระบบ WiFi ที่บ้านผ่านแอปพลิเคชัน Tuya ทำให้คุณสามารถควบคุมประตูได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะสั่งปลดล็อกให้เพื่อนจากที่ทำงาน หรือตรวจสอบประวัติการเข้า-ออกย้อนหลัง
  5. กุญแจฉุกเฉิน (Emergency Key): ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ขัดข้อง En105 ยังคงมีช่องกุญแจแบบซ่อน (Manual Key) ให้คุณไขเข้าบ้านได้เหมือนกลอนปกติ มั่นใจได้ว่าเข้าบ้านได้ทุกสถานการณ์

ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ (Smart Features)

ความพรีเมียมของ En105 ไม่ได้มีแค่ดีไซน์ แต่ยังรวมถึงฟังก์ชันการทำงานที่คิดมาอย่างรอบคอบ:

  • ระบบ Deadlock (ล็อคตาย): เมื่อคุณอยู่ภายในบ้านและต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด สามารถเปิดใช้งานระบบ Deadlock ได้จากด้านใน ซึ่งจะป้องกันการปลดล็อกทุกรูปแบบจากภายนอก (ยกเว้นกุญแจฉุกเฉิน)
  • มาตรฐานกันน้ำ IP65: ไม่ต้องกังวลหากประตูของคุณต้องเจอกับละอองฝนหรือความชื้น En105 ได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติกันน้ำในระดับ IP65 เพียงพอต่อการใช้งานในสภาพอากาศทั่วไป
  • หน้าจอ LED แสดงสถานะ: ไม่ใช่แค่ปุ่มกดรหัส แต่หน้าจอยังสามารถแสดงสถานะต่างๆ ของตัวเครื่อง ทำให้การตั้งค่าและการใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดาย
  • ระบบ Auto Lock: หลังจากคุณปิดประตู กลอนจะทำการล็อกอัตโนมัติ (Auto Lock) ทันที เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด หมดกังวลเรื่องลืมล็อกประตู แต่หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเปิด-ปิดประตูบ่อยๆ เช่น ขนของเข้าบ้าน ก็สามารถตั้งค่าเป็นโหมด Manual Lock ชั่วคราวได้

พลังงานที่เหนือกว่า: แบตเตอรี่ลิเธียมชาร์จได้

นี่คือจุดเด่นที่สำคัญอีกข้อ En105 ไม่ได้ใช้ถ่าน AA แบบกลอนดิจิทัลทั่วไป แต่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุสูง 7.4V 3200mAh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบ “ชาร์จซ้ำได้” (Rechargeable)

ข้อดีคืออายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็เพียงแค่ถอดไปชาร์จด้วยสาย USB (เหมือนชาร์จมือถือ) ไม่ต้องเสียเงินซื้อถ่านเปลี่ยนบ่อยๆ และในกรณีฉุกเฉินที่แบตหมดหน้างานจริงๆ ตัวเครื่องยังมี Port USB ฉุกเฉิน ด้านนอก ให้คุณใช้ Power Bank เสียบเพื่อจ่ายไฟชั่วคราว สำหรับการปลดล็อกและเข้าไปชาร์จแบตเตอรี่ตัวหลักได้

บทสรุป: En105 Push&Pull คุ้มค่าหรือไม่?

ถ้าคุณกำลังมองหากลอนประตูดิจิทัลที่ไม่ได้มีดีแค่ “ล็อกได้” แต่กำลังมองหา “ประสบการณ์” ที่เหนือกว่า En105 Push&Pull คือคำตอบ

มันคือการลงทุนที่ให้คุณได้ทั้งความปลอดภัยสูงสุด (ระบบล็อกกลาง, Deadlock, 5 วิธีปลดล็อก), ความสะดวกสบายที่เปลี่ยนแปลงชีวิต (Push&Pull, แอป Tuya), และดีไซน์ที่บ่งบอกรสนิยม (Aluminum Alloy) ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชัน “กริ่งประตู” ในตัว ที่ช่วยให้หน้าบ้านของคุณสมบูรณ์แบบ เรียบหรู และอัจฉริยะ “จบในตัวเดียว” อย่างแท้จริง

Digital Door Lock Ensureshop ทุกรุ่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ผ่านการทดสอบมาตรฐาน รับประกันคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมมอบความปลอดภัย และ ความสะดวกสบาย ให้กับบ้านของคุณ สนใจ Digital Door Lock Ensureshop ติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษา และสั่งซื้อได้ที่ Line @ensureshop

เปลี่ยนบ้านของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วย Digital Door Lock Ensureshop วันนี้!

จบในตัวเดียว! รีวิว En105 Push&Pull ดีไซน์พรีเมียม ที่เป็นทั้งกลอนและกริ่งในตัว Read More »

เจาะลึกฟังก์ชัน En102 Door Holder: สแกนนิ้ว รหัส การ์ด แอปฯ เลือกแบบไหนที่ใช่คุณ?

เจาะลึกฟังก์ชัน En102 Door Holder: สแกนนิ้ว รหัส การ์ด แอปฯ เลือกแบบไหนที่ใช่คุณ?

บอกลากุญแจแบบเดิมๆ สู่ยุคใหม่ของความปลอดภัยที่เลือกได้

ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว, “กุญแจบ้าน” แบบเดิมๆ อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความยุ่งยากไปแล้ว คุณเคยลืมกุญแจจนเข้าบ้านไม่ได้หรือไม่? หรือต้องปั๊มกุญแจสำรองให้สมาชิกในครอบครัวนับสิบดอก? ปัญหาเหล่านี้กำลังจะหมดไป ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า “Digital Door Lock” หรือ กลอนประตูดิจิทัล

วันนี้ เราจะมาเจาะลึกหนึ่งในรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง นั่นคือ En102 Door Holder จาก EnsureShop ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่กลอนประตู แต่เป็น “มือจับ” อัจฉริยะที่รวมสุดยอดเทคโนโลยีความปลอดภัยไว้ในหนึ่งเดียว ด้วยฟังก์ชันการปลดล็อกที่มากถึง 4+1 รูปแบบ ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือ, กดรหัส, ใช้คีย์การ์ด, สั่งการผ่านแอปพลิเคชัน และกุญแจฉุกเฉิน

แต่คำถามสำคัญคือ… ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายขนาดนี้ ฟังก์ชันไหนล่ะ ที่จะตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ดีที่สุด? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ

รู้จักกับ En102 Door Holder: มากกว่าแค่กลอนประตู

ก่อนที่เราจะไปดูฟังก์ชันปลดล็อก เรามาทำความรู้จักกับตัวตนของ En102 กันก่อน นี่คือกลอนประตูดิจิทัลแบบมือจับก้านโยก (Door Holder) ที่ถูกออกแบบมาสำหรับประตูบานผลัก (Push Door) โดยเฉพาะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับประตูไม้ที่มีความหนาระหว่าง 38 – 55 มม.

ในแง่ของวัสดุ En102 เลือกใช้ อลูมิเนียมอัลลอย (Aluminum Alloy) ผสานกับ อะคริลิค (Acrylic) ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงทนทาน แต่ก็ยังคงความสวยงามทันสมัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP65 ทำให้ทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้นได้ดี ติดตั้งได้ทั้งภายในบ้าน คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่ออฟฟิศ

ในส่วนของพลังงาน En102 ใช้ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA เพียง 4 ก้อน แต่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 เดือน ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนถ่านบ่อยๆ

เจาะลึก 5 ฟังก์ชันปลดล็อก: เลือกที่ "ใช่" ในแบบของคุณ
เจาะลึก 5 ฟังก์ชันปลดล็อก: เลือกที่ “ใช่” ในแบบของคุณ

เจาะลึก 5 ฟังก์ชันปลดล็อก: เลือกที่ “ใช่” ในแบบของคุณ

นี่คือหัวใจสำคัญของ En102 ที่ให้คุณเลือกวิธีเข้าบ้านได้หลากหลายตามสถานการณ์และตามความถนัดของแต่ละคน

1. ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print): ความปลอดภัยที่ปลายนิ้ว

เทคโนโลยี Biometric หรือการสแกนลายนิ้วมือ ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด เพราะ “กุญแจ” ของคุณคือลายนิ้วมือที่อยู่ติดตัวคุณตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถขโมยหรือลอกเลียนแบบได้

  • จุดเด่น: รวดเร็ว, ปลอดภัยสูง, ไม่ต้องพกพาอะไรเลย
  • ฟีเจอร์ของ En102: รองรับลายนิ้วมือได้มากถึง 100 ลายนิ้วมือ หัวสแกนถูกออกแบบมาให้อ่านได้ง่าย ไม่ติดขัด สามารถเพิ่มหรือลบลายนิ้วมือผู้ใช้ออกได้ด้วยตัวเอง
  • เหมาะกับใคร?:
    • ครอบครัว: ลงทะเบียนลายนิ้วมือของทุกคนในบ้าน (พ่อ, แม่, ลูก) ได้อย่างสบาย
    • คนขี้ลืม: คนที่มักลืมกุญแจ หรือทำกุญแจหายบ่อยๆ
    • สายสะดวก: คนที่ต้องการความรวดเร็ว แค่ยกของมาเต็มสองมือ ก็ยังใช้นิ้วโป้งสแกนเปิดประตูได้ทันที

2. ระบบกดรหัส (Passcode): คลาสสิกและไว้ใจได้

การปลดล็อกด้วยรหัสผ่านเป็นวิธีมาตรฐานที่หลายคนคุ้นเคย เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม

  • จุดเด่น: ตั้งค่าง่าย, ไม่ต้องพกการ์ดหรือกุญแจ
  • ฟีเจอร์ของ En102: สามารถตั้งรหัสผ่านได้ยาวตั้งแต่ 3 ถึง 19 หลัก เพิ่มความซับซ้อนในการคาดเดา รหัสผ่านนี้สามารถเปลี่ยนแปลงและยกเลิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยรหัสใหม่จะทับรหัสเก่าเสมอ (ตั้งได้ 1 รหัสหลัก)
  • เหมาะกับใคร?:
    • บ้านทั่วไป: ใช้เป็นรหัสหลักของครอบครัว
    • การใช้งานชั่วคราว: เหมาะสำหรับเวลาที่คุณต้องการให้เพื่อน หรือช่าง เข้ามาในบ้านชั่วคราว โดยที่คุณไม่อยู่ คุณเพียงแค่บอกรหัส และเมื่อเสร็จธุระ คุณก็สามารถเปลี่ยนรหัสใหม่ได้ทันที
    • เป็นระบบสำรอง: ในกรณีที่นิ้วมือคุณเปียกหรือสแกนไม่ติด การกดรหัสคือแผนสำรองที่ยอดเยี่ยม

3. ระบบคีย์การ์ด (Keycard): สะดวกสบายสไตล์คอนโด

การใช้คีย์การ์ด RF แตะเพื่อปลดล็อก ให้ความรู้สึกเหมือนการเข้าพักโรงแรมหรูหรือคอนโดมิเนียมสมัยใหม่ เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายดาย

  • จุดเด่น: รวดเร็วมาก แค่แตะก็ผ่าน, ง่ายต่อการพกพา (ใส่ในกระเป๋าสตางค์), ง่ายต่อการจัดการสิทธิ์
  • ฟีเจอร์ของ En102: รองรับการเพิ่มคีย์การ์ดได้สูงสุดถึง 100 ใบ คุณสามารถเพิ่มหรือลบการ์ดที่หายไปออกจากระบบได้อย่างง่ายดายด้วยตัวเอง
  • เหมาะกับใคร?:
    • ออฟฟิศ หรือ Co-Working Space: สามารถออกการ์ดให้พนักงานแต่ละคนได้ง่าย และเมื่อพนักงานลาออก ก็แค่ลบการ์ดใบนั้นออกจากระบบ
    • ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุบางท่านอาจไม่สะดวกในการจำรหัส หรือลายนิ้วมืออาจสแกนติดยาก การใช้คีย์การ์ดที่แค่ “แตะ” จึงง่ายและสะดวกที่สุด
    • บ้านที่มีสมาชิกหลายคน: ให้การ์ดสมาชิกในบ้านคนละใบ และอาจทำเผื่อไว้สำหรับญาติที่มาเยี่ยมบ่อยๆ

4. แอปพลิเคชัน (Application): ควบคุมทุกอย่างผ่านมือถือ

นี่คือฟังก์ชันสำหรับคนยุคใหม่สายเทคโนโลยี ที่ต้องการเชื่อมต่อทุกอย่างเข้ากับสมาร์ทโฟน

  • จุดเด่น: ควบคุมจากระยะไกล (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า WiFi), ทันสมัย, เชื่อมต่อกับระบบ Smart Home
  • ฟีเจอร์ของ En102: รองรับการปลดล็อกผ่าน แอปพลิเคชัน Tuya Wifi App ซึ่งเป็นแอปฯ ยอดนิยมสำหรับอุปกรณ์ Smart Home
  • เหมาะกับใคร?:
    • สายเทคโนโลยี (Tech-Savvy): คนที่ชื่นชอบการสั่งการทุกอย่างผ่านมือถือ
    • คนที่ต้องการความยืดหยุ่น: สามารถสั่งปลดล็อกประตูให้แขกหรือคนส่งของได้ แม้ว่าตัวคุณจะไม่ได้อยู่ที่บ้าน (ต้องมีการเชื่อมต่อ WiFi Gateway เพิ่มเติมสำหรับฟังก์ชัน Tuya)
    • คนที่ต้องการขยายระบบ Smart Home: สามารถตั้งค่าให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Tuya อื่นๆ ในบ้านได้

5. กุญแจฉุกเฉิน (Emergency Key): แผนสำรองที่อุ่นใจเสมอ

ต่อให้เทคโนโลยีจะล้ำหน้าแค่ไหน แผนสำรองแบบ Manual ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

  • จุดเด่น: ใช้งานได้ 100% แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ฟีเจอร์ของ En102: มีช่องเสียบกุญแจฉุกเฉินแบบ Manual ให้ ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ถ่านหมดเกลี้ยง หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์มีปัญหา คุณยังมีกุญแจดอกนี้ที่จะไขเข้าบ้านได้อย่างแน่นอน
  • เหมาะกับใคร?:
    • ทุกคน! นี่คือระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรมีเก็บไว้ในที่ปลอดภัยนอกบ้าน (เช่น รถยนต์ หรือบ้านเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้)

ตารางเปรียบเทียบ: เลือกแบบไหนที่ “ใช่” สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ?

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูกันว่าไลฟ์สไตล์แบบไหน เหมาะกับฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ

ไลฟ์สไตล์ / ผู้ใช้งานฟังก์ชันที่แนะนำ (เรียงตามลำดับ)เหตุผล
ครอบครัว (มีเด็ก/ผู้ใหญ่)1. สแกนนิ้ว 2. คีย์การ์ดสแกนนิ้ว สะดวกสำหรับผู้ใหญ่และวัยรุ่น คีย์การ์ด ง่ายสำหรับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
คนรุ่นใหม่ / อยู่คนเดียว1. สแกนนิ้ว 2. แอปพลิเคชันเน้นความรวดเร็ว (สแกนนิ้ว) และความไฮเทค (แอปฯ) ไม่ต้องพกอะไรให้วุ่นวาย
ผู้สูงอายุ1. คีย์การ์ด 2. กดรหัสคีย์การ์ด ใช้งานง่ายที่สุด แค่แตะ ไม่ซับซ้อน กดรหัส เป็นตัวเลือกสำรองที่ง่ายกว่าการสแกนนิ้ว
ออฟฟิศ / Co-working1. คีย์การ์ด 2. กดรหัสคีย์การ์ด จัดการสิทธิ์พนักงานง่าย (รองรับ 100 ใบ) กดรหัส สำหรับใช้เป็นรหัสส่วนกลาง
บ้านพักตากอากาศ / Airbnb1. กดรหัส 2. แอปพลิเคชันกดรหัส สามารถเปลี่ยนรหัสใหม่ได้ทุกครั้งที่มีผู้เข้าพักใหม่ แอปฯ (เมื่อต่อ Gateway) ช่วยให้สร้างรหัสชั่วคราวหรือปลดล็อกให้แขกจากระยะไกลได้

ฟีเจอร์เสริมที่ทำให้ En102 น่าสนใจยิ่งขึ้น

นอกจากการปลดล็อก 5 รูปแบบแล้ว En102 ยังมีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง

  • Auto Lock (โหมดล็อกอัตโนมัติ): นี่คือโหมดปกติของประตู เมื่อคุณปิดประตู กลอนจะทำการล็อกอัตโนมัติทันที เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ไม่ต้องกังวลว่า “ฉันล็อกประตูหรือยัง?”
  • Manual Lock (โหมดไม่ล็อกออโต้): ในทางกลับกัน หากคุณมีงานปาร์ตี้ หรืออยู่ในออฟฟิศที่มีคนเดินเข้าออกบ่อยๆ คุณสามารถตั้งค่าให้เป็นโหมด Manual ได้ ประตูจะไม่ล็อกอัตโนมัติ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในช่วงเวลาดังกล่าว และสามารถสั่งล็อกด้วยมือเมื่อต้องการ
  • Long Life Battery: ด้วยการใช้ถ่าน AA 4 ก้อน ใช้งานได้นานถึง 6 เดือน และมักจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อถ่านใกล้หมด (แม้ว่าข้อมูลหน้าเว็บจะไม่ได้ระบุ แต่เป็นมาตรฐานของ Digital Lock) ให้คุณมีเวลาเตรียมตัวเปลี่ยนก่อนที่ถ่านจะหมดเกลี้ยง

บทสรุป: En102 Door Holder คำตอบเดียวที่ให้คุณ “เลือก” ได้ทั้งหมด

การเลือกระบบความปลอดภัยสำหรับบ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นการตัดสินใจที่ “ได้อย่างเสียอย่าง” อีกต่อไป En102 Door Holder ได้พิสูจน์แล้วว่า คุณสามารถมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดทุกรูปแบบรวมอยู่ในที่เดียว

  • ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักความรวดเร็วและเลือกใช้ “สแกนนิ้ว”
  • เป็นคนที่ชอบความคลาสสิกและพึ่งพา “รหัสผ่าน”
  • เป็นคนที่ต้องการความสะดวกสบายแบบ “คีย์การ์ด”
  • หรือเป็นสายเทคโนโลยีที่ต้องการควบคุมทุกอย่างผ่าน “แอปพลิเคชัน”

En102 มีให้คุณทั้งหมด พร้อม “กุญแจฉุกเฉิน” ที่เป็นหลักประกันความอุ่นใจขั้นสูงสุด คำถามจึงไม่ใช่ว่า “คุณควรเลือกแบบไหน?” แต่คือ “วันนี้คุณอยากใช้วิธีไหนเข้าบ้าน?” เพราะ En102 Door Holder ได้มอบอิสระในการเลือกที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับคุณและทุกคนในครอบครัวไว้ในมือคุณแล้ว

Digital Door Lock Ensureshop ทุกรุ่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ผ่านการทดสอบมาตรฐาน รับประกันคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมมอบความปลอดภัย และ ความสะดวกสบาย ให้กับบ้านของคุณ สนใจ Digital Door Lock Ensureshop ติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษา และสั่งซื้อได้ที่ Line @ensureshop

เปลี่ยนบ้านของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วย Digital Door Lock Ensureshop วันนี้!

เจาะลึกฟังก์ชัน En102 Door Holder: สแกนนิ้ว รหัส การ์ด แอปฯ เลือกแบบไหนที่ใช่คุณ? Read More »

รีวิว En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล 5 ระบบใน 1 เดียว ที่มาแทนลูกบิดเดิม ทั้งสแกนนิ้ว, แอป, รหัสผ่าน, คีย์การ์ด และกุญแจ เหมาะสำหรับบ้านและคอนโด อัปเกรดง่ายทันที

ปลดล็อก 5 ระบบใน 1 เดียว! รีวิว ‘En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล’ ที่มาแทนลูกบิดเดิม

ปลดล็อก 5 ระบบใน 1 เดียว! รีวิว ‘En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล’ ที่มาแทนลูกบิดเดิม

ยุคสมัยแห่งการพกกุญแจบ้านเป็นพวงๆ กำลังจะหมดไป การมองหากุญแจในกระเป๋าอย่างวุ่นวาย หรือความกังวลว่า “เราล็อกประตูบ้านแล้วหรือยัง?” จะกลายเป็นเพียงอดีต เมื่อเทคโนโลยี Digital Door Lock เข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับที่อยู่อาศัย

แต่สำหรับหลายๆ คนที่อยากอัปเกรดบ้าน การเปลี่ยนจากลูกบิดหรือกลอนเขาควายแบบเดิมๆ ไปเป็นระบบดิจิทัล อาจดูเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ากังวล ทั้งเรื่องความสวยงาม, การเจาะประตูใหม่, หรือความซับซ้อนในการใช้งาน

วันนี้ เราจะมารีวิวหนึ่งในโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อ “แทนที่” ของเดิมได้อย่างลงตัวที่สุด นั่นคือ “En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล” จาก ENSURE Shop ที่ไม่ได้มาพร้อมแค่ความสวยงาม แต่ยังอัดแน่นด้วย 5 ระบบปลดล็อกอัจฉริยะในเครื่องเดียว นี่คือการปฏิวัติที่แท้จริงสำหรับประตูบ้านของคุณ

ทำไมต้องเป็น “กลอนก้านโยก” (Lever Handle)?

ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึง 5 ฟังก์ชันสุดล้ำ สิ่งแรกที่ทำให้ “En Plus” รุ่นนี้โดดเด่นและแตกต่างจาก Digital Door Lock ทรงสี่เหลี่ยมแบบอื่นๆ คือดีไซน์แบบ “ก้านโยก” (Lever Handle)

นี่คือดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อการ “อัปเกรด” อย่างแท้จริง:

  1. ความคุ้นเคยและการใช้งานที่ง่าย (Ergonomics): เราทุกคนคุ้นเคยกับการใช้ประตูก้านโยก มันง่ายต่อการใช้งานสำหรับทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กเล็กที่อาจมีแรงบิดลูกบิดไม่พอ ไปจนถึงผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด แม้ในเวลาที่คุณถือของเต็มสองมือ ก็ยังสามารถใช้ข้อศอกดันก้านโยกเพื่อเปิดประตูได้
  2. การติดตั้งเพื่อ “แทนที่” ของเดิม (Retrofit Design): จุดเด่นที่สุดคือ มันถูกออกแบบมาให้ติดตั้งแทนที่ “ลูกบิด” หรือ “กลอนก้านโยก” แบบเดิมๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะกับประตูที่มีการเจาะรูมาตรฐานไว้อยู่แล้ว ทำให้การเปลี่ยนผ่านเป็นเรื่องง่าย ลดงานเจาะที่ซับซ้อน และมักจะมีฐานที่กว้างพอจะปิดรอยเก่าของลูกบิดเดิมได้อย่างสวยงาม
  3. ความสวยงามทันสมัย: En Plus ไม่ได้ทำแค่ก้านโยกธรรมดา แต่มาพร้อมดีไซน์ที่เพรียวบาง (Slim Design) วัสดุพรีเมียม และมักมีสีให้เลือกเข้ากับสไตล์บ้าน เช่น สีดำด้าน (Matte Black) หรือสีเงินเมทัลลิก ที่เปลี่ยนประตูธรรมดาให้ดูโมเดิร์นขึ้นทันที
En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล

เจาะลึก 5 ระบบปลดล็อกอัจฉริยะใน “En Plus”

หัวใจของ En Plus รุ่นนี้ คือความสามารถในการปลดล็อกที่หลากหลายถึง 5 รูปแบบ ให้คุณเลือกใช้วิธีที่สะดวกที่สุดในแต่ละสถานการณ์ จบปัญหาการลืมกุญแจไปตลอดกาล

  1. ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Biometric Fingerprint Scan)

นี่คือระบบที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด ลายนิ้วมือของคุณคือกุญแจที่ไม่วันหายและไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ เซ็นเซอร์ของ En Plus ถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย (มักจะอยู่ที่หัวของก้านโยก)

  • ความเร็ว: เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือสมัยใหม่ (Semiconductor Sensor) สามารถจดจำและปลดล็อกได้ในเวลาน้อยกว่า 0.5 วินาที
  • ความปลอดภัย: เป็นการยืนยันตัวตนทางชีวภาพ (Biometric) ที่ปลอมแปลงได้ยากมาก
  • การใช้งาน: เพียงวางนิ้วโป้งลงบนเซ็นเซอร์ขณะที่จับก้านโยก ประตูก็ปลดล็อกพร้อมให้คุณผลักเข้าไปได้ทันที
  1. ระบบรหัสผ่าน (PIN Code) พร้อมเทคโนโลยีรหัสหลอก

การปลดล็อกด้วยรหัสผ่านคือมาตรฐานที่ทุกเครื่องต้องมี แต่ En Plus เพิ่มความปลอดภัยไปอีกขั้นด้วย:

  • การตั้งรหัสส่วนตัว: ตั้งรหัสผ่าน 6-12 หลัก ที่คุณจำได้ง่าย
  • เทคโนโลยีรหัสหลอก (Fake PIN/Scramble Passcode): นี่คือฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยป้องกันการแอบมอง! คุณสามารถกดตัวเลขมั่วๆ ไปก่อน หรือกดต่อท้ายรหัสจริงของคุณ ขอเพียงแค่มีชุดรหัสที่ถูกต้องอยู่ในลำดับนั้น (เช่น รหัสจริงคือ 123456 คุณอาจจะกด 852123456963) ระบบก็จะปลดล็อกให้ ทำให้คนที่แอบดูไม่สามารถรู้รหัสที่แท้จริงของคุณได้
  1. ระบบคีย์การ์ด (RFID Card)

สำหรับคนที่ยังชอบความคลาสสิกของการ “แตะ” เพื่อเข้า En Plus ก็มีระบบคีย์การ์ด RFID คุณภาพสูงมาให้

  • ความสะดวก: มาในรูปแบบการ์ดใบเล็ก หรือสติ๊กเกอร์ที่แปะหลังมือถือได้ พกพาสะดวก
  • การบริหารจัดการ: หากคุณทำคีย์การ์ดหาย? ไม่ใช่ปัญหาเหมือนทำกุญแจหาย คุณแค่เข้าระบบและ “ลบ” การ์ดใบนั้นออกจากหน่วยความจำ การ์ดที่หายไปก็จะกลายเป็นพลาสติกไร้ค่าทันที ปลอดภัยกว่าการต้องไปเปลี่ยนแม่กุญแจใหม่ทั้งชุด
  1. การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน (Mobile App Connectivity)

นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนกลอนประตูของคุณให้เป็น “Smart Lock” อย่างแท้จริง En Plus รุ่นนี้มักจะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi (อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม Gateway) ทำให้คุณควบคุมประตูผ่านสมาร์ทโฟนได้

  • ปลดล็อกระยะไกล: มีเพื่อนมาหาแต่คุณยังไม่ถึงบ้าน? สั่งปลดล็อกผ่านแอปฯ ได้เลย
  • สร้างรหัสผ่านชั่วคราว (Temporary PIN): นี่คือฟีเจอร์เด็ดสำหรับเจ้าของ AirBnB, แม่บ้าน, หรือช่าง คุณสามารถสร้างรหัสที่ใช้งานได้ครั้งเดียว (OTP) หรือรหัสที่กำหนดวันและเวลาหมดอายุได้ เมื่อหมดเวลา รหัสนั้นก็ใช้ไม่ได้อีก
  • ดูประวัติการเข้า-ออก (Access Log): อยากรู้ว่าลูกกลับจากโรงเรียนหรือยัง? แอปฯ จะบันทึกไว้ทั้งหมดว่าใคร ปลดล็อกด้วยวิธีไหน เวลาใด เพิ่มความสบายใจให้คุณ
  1. กุญแจสำรองฉุกเฉิน (Mechanical Key)

สำหรับคำถามที่ว่า “ถ้าถ่านหมด หรือระบบรวน จะทำอย่างไร?” En Plus มีทางออกสุดท้ายที่ปลอดภัยที่สุดซ่อนไว้ นั่นคือ “กุญแจสำรอง”

  • ความอุ่นใจ: ซ่อนอยู่ใต้ฝาปิดอย่างแนบเนียน นี่คือกุญแจแบบกลไกที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น
  • ระบบเตือนแบตอ่อน: ตัวล็อกจะแจ้งเตือนคุณล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ๆ ก่อนแบตจะหมด และยังมีช่องเสียบ Power Bank ฉุกเฉินด้านนอก ทำให้โอกาสที่จะต้องใช้กุญแจจริงมีน้อยมาก แต่การมีไว้คือความอุ่นใจสูงสุด

ฟีเจอร์เสริมที่ทำให้ “En Plus” เหนือกว่าลูกบิดเดิม

นอกจากการปลดล็อก 5 ระบบแล้ว กลอนก้านโยกดิจิตอลรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ลูกบิดธรรมดาให้คุณไม่ได้:

  • ระบบล็อกอัตโนมัติ (Auto Lock): หมดกังวลเรื่องลืมล็อกประตู! ทันทีที่คุณปิดประตู กลอนจะทำการล็อกให้เองโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที (สามารถตั้งค่าเปิด/ปิดได้)
  • สัญญาณเตือนการงัดแงะ (Tamper Alarm): หากมีการพยายามทุบทำลาย, งัดแงะ, หรือสุ่มรหัสผิดซ้ำๆ ตัวล็อกจะส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังมากเพื่อขับไล่ผู้บุกรุก
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน: โครงสร้างมักทำจาก Zinc Alloy หรือสแตนเลสที่ทนทานต่อการใช้งานและสภาพอากาศ

บทสรุป: ถึงเวลาเปลี่ยนลูกบิดเก่าให้เป็นความปลอดภัยอัจฉริยะ

En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล ที่ ENSURE Shop นำเสนอ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนที่จับประตู แต่คือการ “อัปเกรด” ระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายของบ้านทั้งระบบอย่างแท้จริง

มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์ก้านโยกที่คุ้นเคย ใช้งานง่าย กับ 5 เทคโนโลยีการปลดล็อกที่ล้ำสมัย ทั้งสแกนนิ้ว, รหัส, คีย์การ์ด, แอปพลิเคชัน และกุญแจสำรอง ทำให้มันเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนลูกบิดหรือกลอนเขาควายเก่า โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการเจาะประตูใหม่ แต่ได้ฟังก์ชันความปลอดภัยระดับสูงสุดกลับมา

หากคุณพร้อมที่จะปลดล็อกชีวิตที่ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และบอกลาพวงกุญแจเก่าๆ ตลอดไป การเริ่มต้นที่ “En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล” คือคำตอบที่คุ้มค่าที่สุดในวันนี้

Digital Door Lock Ensureshop ทุกรุ่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ผ่านการทดสอบมาตรฐาน รับประกันคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมมอบความปลอดภัย และ ความสะดวกสบาย ให้กับบ้านของคุณ สนใจ Digital Door Lock Ensureshop ติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษา และสั่งซื้อได้ที่ Line @ensureshop

เปลี่ยนบ้านของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วย Digital Door Lock Ensureshop วันนี้!

ปลดล็อก 5 ระบบใน 1 เดียว! รีวิว ‘En Plus กลอนก้านโยกดิจิตอล’ ที่มาแทนลูกบิดเดิม Read More »

มือใหม่ต้องรู้! 5 สิ่งที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อกลอนประตูดิจิตอล

มือใหม่ต้องรู้! 5 สิ่งที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อ กลอนดิจิตอล

มือใหม่ต้องรู้! 5 สิ่งที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อ กลอนดิจิตอล

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “บ้านอัจฉริยะ” หรือ Smart Home ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับบ้านก็คือ ” กลอนดิจิตอล ” (Digital Door Lock) ที่ช่วยให้เราหมดกังวลเรื่องการลืมกุญแจ, การปั๊มกุญแจผี หรือความยุ่งยากในการพกพวงกุญแจหนักๆ อีกต่อไป

แต่สำหรับมือใหม่ที่กำลังสนใจ การจะเลือกซื้อกลอนประตูดิจิตอลเครื่องแรกอาจดูเป็นเรื่องน่าปวดหัว ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ฟังก์ชันที่ละลานตา และราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายหมื่นบาท เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและได้สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก 5 สิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบให้ดี ก่อนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อกลอนประตูดิจิตอลเครื่องแรกของคุณ

ประเภทและความหนาของ “ประตู” ที่จะติดตั้ง กลอนดิจิตอล

เปลี่ยนบ้านของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วย Digital Door Lock Ensureshop วันนี้!

นี่คือปัจจัยแรกสุดและสำคัญที่สุดที่หลายคนมองข้ามไป เพราะไม่ใช่กลอนประตูดิจิตอลทุกรุ่นจะสามารถติดตั้งได้กับประตูทุกบาน ก่อนจะดูฟังก์ชันสุดล้ำใดๆ ให้คุณกลับมาสำรวจประตูบ้านของคุณก่อน โดยมีจุดที่ต้องพิจารณาดังนี้:

  • วัสดุของประตู: ประตูของคุณทำจากอะไร? ไม้, เหล็ก, อลูมิเนียม, กระจกกรอบอลูมิเนียม, หรือ uPVC? วัสดุแต่ละชนิดมีความแข็งแรงและโครงสร้างภายในที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อวิธีการติดตั้งและความแข็งแรงในการยึดเกาะของตัวกลอน โดยทั่วไป ประตูไม้จะติดตั้งง่ายที่สุด ส่วนประตูเหล็กหรืออลูมิเนียมอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมหรือช่างที่มีความชำนาญเฉพาะทาง
  • ความหนาของบานประตู: กลอนประตูดิจิตอลส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาสำหรับประตูที่มีความหนามาตรฐานประมาณ 35 – 50 มิลลิเมตร หากประตูของคุณบางหรือหนาเกินไป อาจต้องมีการเสริมเนื้อไม้หรือใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษ (Extension Kit) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้น ควรใช้ตลับเมตรวัดความหนาของประตูให้แน่ใจก่อนเสมอ
  • รูปแบบของประตู: เป็นประตูบานเปิด (สวิง) หรือประตูบานเลื่อน? กลอนประตูดิจิตอลส่วนใหญ่ในท้องตลาดถูกออกแบบมาสำหรับประตูบานเปิด หากบ้านของคุณใช้ประตูบานเลื่อน คุณจะต้องมองหารุ่นที่ระบุชัดเจนว่า “สำหรับประตูบานเลื่อน” (Sliding Door Lock) ซึ่งมีกลไกการล็อกแตกต่างกัน
  • ระยะขอบประตู (Backset): คือระยะจากขอบสันประตูมาถึงจุดศูนย์กลางของลูกบิดเดิม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ตรงนั้นมีเพียงพอสำหรับติดตั้งตลับกุญแจ (Mortise) ของกลอนดิจิตอลรุ่นใหม่ ซึ่งมักจะมีขนาดใหญ่กว่าตลับกุญแจแบบเดิม

การตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่แรก จะช่วยคัดกรองรุ่นที่ไม่เหมาะสมออกไป และทำให้คุณเลือกรุ่นที่สามารถติดตั้งกับประตูบ้านของคุณได้อย่างแข็งแรง ปลอดภัย และสวยงาม

ระบบการปลดล็อกที่ “ใช่” สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ

หัวใจของกลอนประตูดิจิตอลคือความสะดวกสบายในการเข้า-ออกบ้านโดยไม่ต้องใช้กุญแจ ซึ่งปัจจุบันมีระบบปลดล็อกให้เลือกหลากหลาย โดยแต่ละระบบก็มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป

  • ระบบรหัสผ่าน (PIN Code): เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีในทุกรุ่น ใช้งานง่าย แค่กดรหัสที่ตั้งไว้ก็ปลดล็อกได้ทันที เหมาะสำหรับบ้านทั่วไป, การตั้งรหัสชั่วคราวให้แม่บ้านหรือเพื่อนที่มาเยี่ยมบ้าน หลายรุ่นยังมี เทคโนโลยีรหัสผ่านเสมือน (Fake PIN) ที่ให้เรากดตัวเลขมั่วๆ ก่อนหรือหลังรหัสจริงเพื่อป้องกันการลอบมอง
  • ระบบคีย์การ์ด (Key Card/RFID): สะดวกสบาย เพียงแค่แตะการ์ดที่ตัวเครื่องก็ปลดล็อกได้ทันที รวดเร็วกว่าการกดรหัส เหมาะสำหรับทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือเด็กที่ไม่ถนัดจำรหัส การ์ดมักมีขนาดเล็ก พกพาง่ายเหมือนบัตรเครดิต หรือมาในรูปแบบสติกเกอร์แปะหลังมือถือ
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scan): เป็นระบบที่ปลอดภัยและสะดวกที่สุด เพราะลายนิ้วมือคือเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ปลอมแปลงได้ยากมาก และไม่ต้องพกพาอะไรเลย แค่ใช้นิ้วมือของคุณก็เป็นกุญแจได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ขี้ลืม หรือไม่ต้องการพกพาอุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม เทคโนโลยีการสแกนในปัจจุบันมีความแม่นยำและรวดเร็วสูงมาก
  • ระบบควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (Wi-Fi/Bluetooth): ถือเป็นฟังก์ชันขั้นสูงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง กลอนจะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi บ้าน ทำให้คุณสามารถสั่งปลดล็อกประตูได้จากทุกที่ทั่วโลกผ่านสมาร์ทโฟน, ตรวจสอบสถานะของประตูว่าล็อกอยู่หรือไม่, ดูประวัติการเข้า-ออกของแต่ละคนแบบเรียลไทม์ และสร้างรหัสผ่านชั่วคราว (One-Time Password) ส่งให้แขกได้ทันที เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านเช่า, Airbnb หรือคนที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของบ้านอย่างเต็มรูปแบบ
  • กุญแจสำรอง (Mechanical Key): แม้จะชื่อว่ากลอนดิจิตอล แต่รุ่นที่ดีควรมีกุญแจสำรองแบบดั้งเดิมมาให้ด้วยเสมอ เพื่อเป็นแผนสำรองในกรณีฉุกเฉิน เช่น แบตเตอรี่หมดสนิท หรือเกิดเหตุขัดข้องกับระบบอิเล็กทรอนิกส์

คำแนะนำสำหรับมือใหม่: ลองพิจารณาว่าใครคือผู้ใช้งานหลักในบ้าน และคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด? หากเน้นความง่ายของผู้สูงอายุ คีย์การ์ด อาจจะดีที่สุด หากเน้นความปลอดภัยสูงสุดและไม่ต้องการพกพา สแกนลายนิ้วมือ คือคำตอบ หรือถ้าคุณเป็นคนยุคใหม่ที่ติดสมาร์ทโฟนและต้องการควบคุมทุกอย่าง แอปพลิเคชัน ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ฟังก์ชันเสริมด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

นอกเหนือจากระบบปลดล็อกหลักแล้ว กลอนประตูดิจิตอลยังมีฟังก์ชันเสริมต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นพื้นฐานและรุ่นท็อป

  • ระบบล็อกอัตโนมัติ (Auto Lock): หมดกังวลว่าจะลืมล็อกประตูหรือไม่ ฟังก์ชันนี้จะทำการล็อกประตูให้เองทุกครั้งหลังจากประตูถูกปิดสนิท คุณสามารถตั้งเวลาได้ว่าจะให้ล็อกทันที หรือหน่วงเวลาไว้ 3-5 วินาที
  • สัญญาณเตือนการงัดแงะ (Tamper Alarm): หากมีการพยายามทุบ ทำลาย หรือใช้แรงงัดแงะที่ตัวกลอน ระบบจะส่งเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นมาเพื่อขับไล่ผู้บุกรุกและแจ้งเตือนคนในบ้าน
  • สัญญาณเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท (Door Ajar Alarm): หากคุณปิดประตูไม่สนิทหลังจากเดินเข้า-ออก กลอนจะส่งเสียงเตือนเพื่อบอกให้คุณรู้
  • ระบบป้องกันการก่อกวน: หากมีการกดรหัสผิด, ใช้การ์ดที่ไม่ใช่เจ้าของ หรือสแกนนิ้วที่ไม่ได้ลงทะเบียนติดต่อกันหลายครั้ง ระบบจะทำการล็อกตัวเองชั่วคราว (เช่น 1-3 นาที) เพื่อป้องกันการสุ่มรหัสหรือการเดาเพื่อพยายามเข้าระบบ
  • โหมดห้ามรบกวน (Privacy/Do Not Disturb Mode): เป็นปุ่มล็อกพิเศษที่อยู่ฝั่งด้านในของบ้าน เมื่อเปิดใช้งาน คนภายนอกจะไม่สามารถปลดล็อกเข้ามาได้ในทุกกรณี (ยกเว้นกุญแจสำรอง) เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด

แหล่งพลังงานและระบบแจ้งเตือนแบตเตอรี่

กลอนประตูดิจิตอลทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (ส่วนใหญ่เป็นถ่านอัลคาไลน์ AA จำนวน 4-8 ก้อน) ไม่ได้เชื่อมต่อกับไฟบ้านโดยตรง นี่คือข้อดีเพราะแม้ไฟดับ กลอนก็ยังทำงานได้ปกติ คำถามที่มือใหม่สงสัยบ่อยที่สุดคือ “ถ้าแบตหมดจะทำอย่างไร?”

  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่: โดยเฉลี่ยแล้ว แบตเตอรี่ 1 ชุด จะสามารถใช้งานได้นานประมาณ 10-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน)
  • ระบบแจ้งเตือนแบตเตอรี่อ่อน: ไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดไปดื้อๆ กลอนดิจิตอลอัจฉริยะทุกรุ่นจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด โดยจะแจ้งเตือนล่วงหน้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจจะเป็นเสียงเตือนเวลาใช้งาน หรือสัญลักษณ์ไฟกะพริบบนหน้าจอ
  • ช่องเสียบแบตเตอรี่สำรองฉุกเฉิน: ในกรณีที่แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงและคุณเข้าบ้านไม่ได้จริงๆ ที่ด้านนอกของตัวกลอน จะมีพอร์ต Micro USB หรือช่องสำหรับทาบแบตเตอรี่ 9V เพื่อจ่ายไฟสำรองชั่วคราว ให้คุณสามารถปลดล็อกและเข้าไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้านในได้

ดังนั้น เรื่องแบตเตอรี่จึงไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวล ขอแค่คุณใส่ใจกับสัญญาณเตือนและเปลี่ยนถ่านตามกำหนดก็เพียงพอแล้ว

การรับประกันและบริการหลังการขาย

การติดตั้งกลอนประตูดิจิตอลไม่ใช่แค่การซื้อสินค้า แต่เป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้น บริการหลังการขายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

  • ระยะเวลารับประกัน: สินค้าควรมีการรับประกันตัวเครื่องอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อความอุ่นใจหากเกิดปัญหาจากการผลิต
  • บริการติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ: การติดตั้งที่ถูกต้องคือหัวใจของความปลอดภัย ควรเลือกร้านค้าที่มีบริการติดตั้งโดยทีมช่างของตัวเอง หรือช่างที่ผ่านการอบรมมาโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่ากลอนของคุณจะถูกติดตั้งอย่างแข็งแรงและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • บริการหลังการขายและ On-site Service: หากเกิดปัญหาขึ้นมา คุณสามารถติดต่อใครได้? มีทีมซัพพอร์ตคอยให้คำปรึกษาหรือไม่? มีบริการเข้าไปแก้ไขปัญหาที่หน้างาน (On-site Service) หรือไม่? ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร? ร้านค้าที่น่าเชื่อถืออย่าง Ensureshop.com มักจะมีข้อมูลเหล่านี้ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเครื่องการันตีความอุ่นใจในระยะยาว

สรุป

การเลือกซื้อกลอนประตูดิจิตอลเครื่องแรกอาจดูซับซ้อน แต่หากคุณเริ่มต้นจากการตรวจสอบ 5 ข้อสำคัญนี้ ได้แก่ 1. ความเข้ากันได้กับประตูของคุณ, 2. ระบบปลดล็อกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์, 3. ฟังก์ชันเสริมด้านความปลอดภัย, 4. ระบบพลังงานและแบตเตอรี่, และ 5. การรับประกันและบริการหลังการขาย คุณก็จะสามารถตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกไป และมองเห็นภาพของกลอนประตูในฝันที่ทั้งปลอดภัย, สะดวก, และคุ้มค่ากับการลงทุนได้อย่างแน่นอน การสละเวลาศึกษาข้อมูลในวันนี้ คือการลงทุนเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของคุณและครอบครัวไปอีกหลายปีในวันข้างหน้า

Digital Door Lock Ensureshop ทุกรุ่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ผ่านการทดสอบมาตรฐาน รับประกันคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมมอบความปลอดภัย และ ความสะดวกสบาย ให้กับบ้านของคุณ สนใจ Digital Door Lock Ensureshop ติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษา และสั่งซื้อได้ที่ Line @ensureshop

เปลี่ยนบ้านของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วย Digital Door Lock Ensureshop วันนี้!

มือใหม่ต้องรู้! 5 สิ่งที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อ กลอนดิจิตอล Read More »

Scroll to Top